การเตรียมพิธีการแบบประหยัด
คู่รักที่กำลังวางแผนจะเข้าพิธีหมั้นในเร็ววันนี้คงมีความกังวลไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องพิธีหมั้นแบบไทย ว่ามีขั้นตอนละเอียดขนาดไหน ขั้นตอนไหนสำคัญ และขั้นตอนไหนสามารถลดทอนหรือตัดออกไปได้บ้าง อีกทั้งยังต้องตระเตรียมองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น สถานที่จัดงาน ชุดหมั้น การ์ดเชิญ หรือของชำร่วย ฯลฯ โอ๊ย ! มีเรื่องให้ต้องทำจิปาถะไปหมด
ดังนั้น วันนี้เราจึงนำเอาข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับงานหมั้นของคู่รักต่างเชื้อชาติ (ไทย-เกาหลี) จาก คุณ need_woon สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ในแบบฉบับตามใจฉัน ^_^ มาร่วมแชร์
เล่าโดยเจ้าของงานนะคะ.......
เริ่มจากพอได้กำหนดที่แน่นอนแบบฉุกละหุกมาก ๆ อันเนื่องมาจากคุณแฟนเพิ่งจะเข้าทำงานที่บริษัท และยังไม่ได้คำตอบจากบริษัทว่าตกลงแล้วจะให้ประจำที่เมืองไหนกันแน่ เลยทำให้รอคำตอบกันจนนาทีสุดท้าย เพื่อกำหนดวันจัดงาน (เพราะต้องใช้สิทธิ์วันลาแต่งงาน 7 วัน เพื่อมาเมืองไทยจัดงานหมั้น และเคลียร์เรื่องวีซ่าของนีดในคราวเดียวกันค่ะ) ซึ่งพอได้กำหนดการปุ๊บ นีดก็ลิสต์ชื่อโรงแรมทั้งหมดที่สนใจให้คุณแม่เลย คุณแม่ พี่ชาย และคุณพ่อ จึงเป็นธุระในการตระเวนทุกโรงแรมเพื่อสรุป แล้วทุกคนก็สรุปตรงกันที่โรงแรมเดียวกันแบบมิได้นัดหมาย คือ Swissotel Le Concorde รัชดา ค่ะ
ด้วยเหตุผลตรงกัน คือ อาหารอร่อย ห้องสวย โรงแรมหรูตั้งแต่ทางเข้า ล็อบบี้สวย ที่ตั้งเดินทางง่าย ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่ คุณเซลล์น่ารักมากกก และราคาอยู่ในงบค่ะ
พอหลังจากที่เราตกลงกันได้แล้วว่าใช้โรงแรมนี้แหละ พร้อมกับวันที่ เวลา สรุปง่าย ๆ ว่างานนี้จัดแน่ !!! นีดก็จัดการสองอย่างที่นีดต้องทำจากที่เกาหลีค่ะ นั่นคือ การ์ดเชิญและของชำร่วยในงาน
เริ่มจากการ์ด นีดหาการ์ดจากในเน็ตค่ะ ร้านในเน็ตนี่แหละ เพราะไม่อยากได้การ์ดซ้ำกับคนอื่น อิอิ อยากได้อะไรที่แบบ คนถูกเชิญรู้สึกพิเศษตั้งแต่รับการ์ดเชิญ แบบว่า เออ ได้รับเชิญแบบ Exclusive จริง ๆ นะ อะไรอย่างงี้
จากนั้นต่อมาสุดท้าย คือ ของชำร่วย โจทย์มีว่านีดต้องการของชำร่วยที่คนรับไม่ต้องบ่นว่าจะเอาไปทำอะไรดี หรือคนรับได้แล้วรู้สึกมีความสุข เต็มใจรับ อยากได้ เพื่อเป็นการตอบแทนและขอบคุณจริง ๆ ที่อุตส่าห์ดั้นด้นมางานของนีด (เพราะญาติ ๆ ครึ่งหนึ่งอยู่ต่างจังหวัดค่ะ และแขกผู้ใหญ่อีกหลาย ๆ ท่านอยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เรียกว่าเดินทางข้ามกรุงกันเลยทีเดียว
ในวันงานมีพิธีต่างๆดังนี้นะคะ งานพิธีหมั้นโดยปกติแล้วลำดับจะประมาณว่า แห่ขันหมาก มีพิธีสงฆ์ พิธีสวมแหวน รดน้ำ บลา ๆ แต่อย่างที่บอกว่า งานนี้ตามใจฉันค่ะ เราตัดหมดเลย เพราะพิธีพวกนั้นมันทำให้แขกหลาย ๆ ท่านรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง บรรยากาศและความรู้สึกแบบนั้นมันไม่อบอุ่นค่ะ เพราะฉะนั้น เราตัดทิ้งหมดเลย พิธีสงฆ์เนี่ยช่วยไม่ได้จริง ๆ เจ้าบ่าวคริสต์ค่ะ ตัดทิ้งค่ะ รดน้ำสังข์เนี่ยเอ่อ ยืดยาวค่ะ ทุกคนก็มาแล้วแค่ บลา ๆ คนอื่นที่ยังไม่ถึงคิวก็รอไปสิ รดเสร็จแล้วก็รอคนอื่นรดก่อนสิ รอกันยืดไปยาวไป เปลืองเวลาและความรู้สึกค่ะ ตัดทิ้ง เนี่ยแหละค่ะ พิธีนีด ตามนี้เลยค่ะ
1. ถ่ายรูปหน้างาน แล้วเข้างาน
2. ฟ้อนอวยพรเปิดงาน
3. พิธีกรแนะนำบ่าวสาว
4. เปิดตัวบ่าวสาวเข้างาน
5. พ่อแม่ขึ้นเวที
6. กราบขอพรพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย
7. สวมแหวน
8. ประธานพิธีกล่าวอวยพร
9. บ่าวสาวกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน
10. เชิญทานอาหาร
จบค่ะสั้น ๆ น่ารัก ๆ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ไม่น่าเบื่อ เชิญแขก 10 โมง ไม่เกินเที่ยงกลับได้ ไม่เสียเวลาค่ะ คนเค้ามีธุระ แต่เราเปิดห้องไว้ถึงสองโมงเย็น เพราะฉะนั้น ใครจะอยู่ต่อเม้าท์มอยก็เชิญค่ะเต็มที่ อุตส่าห์มาเป็นเกียรติให้กัน คุณไม่กลับดิฉันก็ไม่กลับค่ะ
บางคนอาจจะต้องเสียเงินมากมาย ใช้เอเจนซี่ในการช่วยจัดงานให้ออกมาสมบูรณ์แต่สำหรับนีด (เป็นพวกขี้รำคาญ) เลือกที่จะทำเองทุกอย่างด้วยใจ ประหยัดไปมากกว่าครึ่ง แถมออกมาได้อย่างใจทุกอย่าง เพราะเราเลือกเอง ทำเองทุกอย่าง ให้ใครทำให้ก็ไม่ถูกใจเท่าทำเอง สรุปสุดท้ายสุด ๆ งานนี้ตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ เบ็ดเสร็จ นีดใช้เงินไปทั้งสิ้น 1.2 แสนบาทค่ะ ได้ทุกอย่างจริง ๆ ได้ใจด้วย
ก็หวังว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นแนวทางให้ใครหลาย ๆ คนที่งบน้อย งบจำกัด ได้ลองดูว่า ตรงไหนเราทำเองได้ มันจะช่วยประหยัดได้มากเลยค่ะ
ดังนั้น วันนี้เราจึงนำเอาข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับงานหมั้นของคู่รักต่างเชื้อชาติ (ไทย-เกาหลี) จาก คุณ need_woon สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ในแบบฉบับตามใจฉัน ^_^ มาร่วมแชร์
เล่าโดยเจ้าของงานนะคะ.......
เริ่มจากพอได้กำหนดที่แน่นอนแบบฉุกละหุกมาก ๆ อันเนื่องมาจากคุณแฟนเพิ่งจะเข้าทำงานที่บริษัท และยังไม่ได้คำตอบจากบริษัทว่าตกลงแล้วจะให้ประจำที่เมืองไหนกันแน่ เลยทำให้รอคำตอบกันจนนาทีสุดท้าย เพื่อกำหนดวันจัดงาน (เพราะต้องใช้สิทธิ์วันลาแต่งงาน 7 วัน เพื่อมาเมืองไทยจัดงานหมั้น และเคลียร์เรื่องวีซ่าของนีดในคราวเดียวกันค่ะ) ซึ่งพอได้กำหนดการปุ๊บ นีดก็ลิสต์ชื่อโรงแรมทั้งหมดที่สนใจให้คุณแม่เลย คุณแม่ พี่ชาย และคุณพ่อ จึงเป็นธุระในการตระเวนทุกโรงแรมเพื่อสรุป แล้วทุกคนก็สรุปตรงกันที่โรงแรมเดียวกันแบบมิได้นัดหมาย คือ Swissotel Le Concorde รัชดา ค่ะ
ด้วยเหตุผลตรงกัน คือ อาหารอร่อย ห้องสวย โรงแรมหรูตั้งแต่ทางเข้า ล็อบบี้สวย ที่ตั้งเดินทางง่าย ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่ คุณเซลล์น่ารักมากกก และราคาอยู่ในงบค่ะ
พอหลังจากที่เราตกลงกันได้แล้วว่าใช้โรงแรมนี้แหละ พร้อมกับวันที่ เวลา สรุปง่าย ๆ ว่างานนี้จัดแน่ !!! นีดก็จัดการสองอย่างที่นีดต้องทำจากที่เกาหลีค่ะ นั่นคือ การ์ดเชิญและของชำร่วยในงาน
เริ่มจากการ์ด นีดหาการ์ดจากในเน็ตค่ะ ร้านในเน็ตนี่แหละ เพราะไม่อยากได้การ์ดซ้ำกับคนอื่น อิอิ อยากได้อะไรที่แบบ คนถูกเชิญรู้สึกพิเศษตั้งแต่รับการ์ดเชิญ แบบว่า เออ ได้รับเชิญแบบ Exclusive จริง ๆ นะ อะไรอย่างงี้
จากนั้นต่อมาสุดท้าย คือ ของชำร่วย โจทย์มีว่านีดต้องการของชำร่วยที่คนรับไม่ต้องบ่นว่าจะเอาไปทำอะไรดี หรือคนรับได้แล้วรู้สึกมีความสุข เต็มใจรับ อยากได้ เพื่อเป็นการตอบแทนและขอบคุณจริง ๆ ที่อุตส่าห์ดั้นด้นมางานของนีด (เพราะญาติ ๆ ครึ่งหนึ่งอยู่ต่างจังหวัดค่ะ และแขกผู้ใหญ่อีกหลาย ๆ ท่านอยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เรียกว่าเดินทางข้ามกรุงกันเลยทีเดียว
ในวันงานมีพิธีต่างๆดังนี้นะคะ งานพิธีหมั้นโดยปกติแล้วลำดับจะประมาณว่า แห่ขันหมาก มีพิธีสงฆ์ พิธีสวมแหวน รดน้ำ บลา ๆ แต่อย่างที่บอกว่า งานนี้ตามใจฉันค่ะ เราตัดหมดเลย เพราะพิธีพวกนั้นมันทำให้แขกหลาย ๆ ท่านรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง บรรยากาศและความรู้สึกแบบนั้นมันไม่อบอุ่นค่ะ เพราะฉะนั้น เราตัดทิ้งหมดเลย พิธีสงฆ์เนี่ยช่วยไม่ได้จริง ๆ เจ้าบ่าวคริสต์ค่ะ ตัดทิ้งค่ะ รดน้ำสังข์เนี่ยเอ่อ ยืดยาวค่ะ ทุกคนก็มาแล้วแค่ บลา ๆ คนอื่นที่ยังไม่ถึงคิวก็รอไปสิ รดเสร็จแล้วก็รอคนอื่นรดก่อนสิ รอกันยืดไปยาวไป เปลืองเวลาและความรู้สึกค่ะ ตัดทิ้ง เนี่ยแหละค่ะ พิธีนีด ตามนี้เลยค่ะ
1. ถ่ายรูปหน้างาน แล้วเข้างาน
2. ฟ้อนอวยพรเปิดงาน
3. พิธีกรแนะนำบ่าวสาว
4. เปิดตัวบ่าวสาวเข้างาน
5. พ่อแม่ขึ้นเวที
6. กราบขอพรพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย
7. สวมแหวน
8. ประธานพิธีกล่าวอวยพร
9. บ่าวสาวกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน
10. เชิญทานอาหาร
จบค่ะสั้น ๆ น่ารัก ๆ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ไม่น่าเบื่อ เชิญแขก 10 โมง ไม่เกินเที่ยงกลับได้ ไม่เสียเวลาค่ะ คนเค้ามีธุระ แต่เราเปิดห้องไว้ถึงสองโมงเย็น เพราะฉะนั้น ใครจะอยู่ต่อเม้าท์มอยก็เชิญค่ะเต็มที่ อุตส่าห์มาเป็นเกียรติให้กัน คุณไม่กลับดิฉันก็ไม่กลับค่ะ
บางคนอาจจะต้องเสียเงินมากมาย ใช้เอเจนซี่ในการช่วยจัดงานให้ออกมาสมบูรณ์แต่สำหรับนีด (เป็นพวกขี้รำคาญ) เลือกที่จะทำเองทุกอย่างด้วยใจ ประหยัดไปมากกว่าครึ่ง แถมออกมาได้อย่างใจทุกอย่าง เพราะเราเลือกเอง ทำเองทุกอย่าง ให้ใครทำให้ก็ไม่ถูกใจเท่าทำเอง สรุปสุดท้ายสุด ๆ งานนี้ตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ เบ็ดเสร็จ นีดใช้เงินไปทั้งสิ้น 1.2 แสนบาทค่ะ ได้ทุกอย่างจริง ๆ ได้ใจด้วย
ก็หวังว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นแนวทางให้ใครหลาย ๆ คนที่งบน้อย งบจำกัด ได้ลองดูว่า ตรงไหนเราทำเองได้ มันจะช่วยประหยัดได้มากเลยค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น